ธรรมนูญของสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่
กลุ่มองค์กรภาคีหลักที่ได้ร่วมกันดำเนินงานควบคุมยาสูบได้มีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุอัตราการสูบบุหรี่ในช่วงห้าปีที่ผ่านมากลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นซึ่งพบว่ามีหลายเหตุปัจจัยด้วยกัน ปัจจัยสำคัญคือการดำเนินงานตามมาตรการต่างๆในการควบคุมยาสูบยังอยู่ในวงจำกัดเฉพาะหน่วยงานภาคสุขภาพและหน่วยงานในเขตเมือง ทำให้ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอเมื่อเทียบกับมาตรการเชิงรุกที่เพิ่มขึ้นอย่างมากและรุนแรงของอุตสาหกรรมยาสูบจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแสวงหาความร่วมมือร่วมแรงเพิ่มขึ้นจากเครือข่ายทุกภาคส่วนที่มีบทบาทใน การพัฒนาสังคมทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคม ทั้งในและนอกภาคการสาธารณสุขและนอกวงการสาธารณสุข เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการควบคุมยาสูบให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปด้วยเหตุนี้ จึงมีการจัดตั้งสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ (สคสบ.) ซึ่งมีเป้าประสงค์เพื่อเป็น พันธมิตรร่วมสร้างความเข้มแข็งในการควบคุมการบริโภคยาสูบ และร่วมสนับสนุนการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อให้ประเทศไทยสามารถลดการบริโภคยาสูบให้ได้ร้อยละ 30 โดยอัตราการสูบบุหรี่ของประชากรไทยลดลงจากร้อยละ 21 ในปี 2554 เหลือร้อยละ 15 ในปี 2568 ตามเป้าหมายในการลดปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคไม่ติดต่อขององค์การสหประชาชาติที่ประเทศสมาชิกทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยได้มีมติตกลงร่วมกัน ทั้งนี้การดำเนินงานของสหพันธ์จะเป็นไปตามข้อกำหนดในธรรมนูญฉบับนี้
ข้อบังคับของสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่
หมวดที่ 1 ความทั่วไป
ข้อ 1 สมาพันธ์นี้ชื่อว่าสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่
ข้อ 2 เครื่องหมายของสมาพันธ์ เป็นลักษณะของคนกลุ่มหนึ่งโอบมือล้อมเป็นวง ภายในเป็นเส้นรอบวงล้อมรอบ ธงชาติและสัญลักษณ์การห้ามบุหรี่
ข้อ 5 วัตถุประสงค์ของสมาพันธ์
5.2 เป็นศูนย์กลางเครือข่ายความร่วมมือในการดำเนินงานควบคุมยาสูบเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่
5.3 จัดให้มีการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ระหว่างสมาชิก ผลักดันสังคมในการลดการบริโภคยาสูบของสังคมไทย
5.4 ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับอันตรายและผลเสียของการบริโภคบุหรี่แก่ประชากรในสังคมไทยเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่
5.5 สมาพันธ์นี้ ไม่มุ่งหาประโยชน์การค้า
หมวดที่ 2 ทุนทรัพย์ ทรัพย์สิน และการได้มาซึ่งทรัพย์สิน
ข้อ 6 สมาพันธ์อาจได้มาซึ่งทรัพย์สินโดยวิธีต่อไปนี้
6.2 ดอกผลซึ่งเกิดจากทรัพย์สินของสมาพันธ์
6.3 รายได้จากกิจกรรมของสมาพันธ์
หมวดที่ 3 สมาชิก
ข้อ 7 สมาชิกของสมาพันธ์มี 3 ประเภทคือ
7.2 สมาชิกแนวร่วม ได้แก่ บุคคล องค์กร หน่วยงานอื่นใด ที่ทำงานในด้านยาสูบเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ หรือบุคคล องค์กร หน่วยงานอื่นใด ที่มีความประสงค์ที่จะทำงานร่วม
7.3 สมาชิกกิตติมศักดิ์ได้แก่ที่ปรึกษาหรือบุคคลที่ทำงานการรณรงค์ให้สังคมไทยปลอดบุหรี่ปรากฏผลงานอย่างเป็นที่ประจักษ์
ข้อ 8 สมาชิกมีคุณสมบัติดังนี้
8.2 ไม่เป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ตรงจากบริษัทบุหรี่
8.3 ไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ หรือต้องโทษจำคุก ยกเว้นความผิดฐานประมาทหรือลหุโทษ
ข้อ 9 ค่าลงทะเบียน และค่าบำรุงสมาพันธ์
ข้อ 10 การสมัครเข้าเป็นสมาชิกแกนหลักของสมาพันธ์
10.2 ให้เลขาธิการแจ้งให้คณะกรรมการอำนวยการทราบและพิจารณาในการประชุมครั้งถัดไป เมื่อคณะกรรมการอำนวยการลงมติรับเป็นสมาชิกแกนหลักแล้วให้เลขาธิการทำหนังสือแจ้งให้ทราบโดยเร็ว
ข้อ 11 การสมัครเข้าเป็นสมาชิกแนวร่วมของสมาพันธ์
11.2 ให้เลขาธิการแจ้งให้คณะกรรมการอำนวยการทราบ เมื่อคณะกรรมการอำนวยการลงมติรับเป็นสมาชิกแนวร่วมแล้วให้เลขาธิการทำหนังสือแจ้งให้ทราบโดยเร็ว
ข้อ 13 สมาชิกภาพของสมาชิกให้สิ้นสุดลงด้วยเหตุดังต่อไปนี้
13.2 ลาออก โดยยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการได้พิจารณาอนุมัติ
13.3 ขาดคุณสมบัติของสมาชิก ตามข้อ 6 ของข้อบังคับนี้
13.4 ประพฤติเสียหาย และที่ประชุมใหญ่ของสมาชิกหรือคณะกรรมการอำนวยการของสมาพันธ์ได้ลงมติให้ออกจากการเป็นสมาชิก
ข้อ 14 สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก
14.2 สมาชิกแกนหลักมีสิทธิที่จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการอำนวยการของสมาพันธ์
14.3 สมาชิกแกนหลักมีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบเอกสาร และบัญชีทรัพย์สินของสมาพันธ์ได้
14.4 สมาชิกแกนหลักมีสิทธิเข้าชื่อร่วมกันอย่างน้อย 1 ใน 3 ของสมาชิกแกนหลักทั้งหมด หรือสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 50 คน ทำหนังสือร้องขอต่อคณะกรรมการให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญได้
14.5 สมาชิกทุกคนมีสิทธิเข้าร่วมประชุมในที่ประชุมใหญ่ได้ทั้งสมาชิกแกนหลักและสมาชิกแนวร่วม
14.6 สมาชิกทุกคนมีสิทธิได้รับแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับการประชุมต่างๆ ของสมาพันธ์หรือการประชุมทางวิชาการของสมาพันธ์อื่นๆ ที่คณะกรรมการพิจารณาเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกของสมาพันธ์
14.7 สมาชิกทุกคนมีหน้าที่จะต้องประพฤติตนให้สมกับเกียรติที่เป็นสมาชิกของสมาพันธ์
14.8 สมาชิกทุกคนมีหน้าที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินกิจการต่างๆ ของสมาพันธ์
14.9 สมาชิกทุกคนมีสิทธิและหน้าที่ร่วมกิจกรรมที่สมาพันธ์จัดขึ้น
14.10 สมาชิกทุกคนมีหน้าที่ช่วยเผยแพร่ชื่อเสียงของสมาพันธ์ให้เห็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
หมวดที่ 4 การดำเนินกิจการของสมาพันธ์
ข้อ 15 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า คณะกรรมการอำนวยการ ทำหน้าที่บริหารกิจการของสมาพันธ์ มีกรรมการจำนวนไม่น้อยกว่า 8 คนไม่เกิน 20 คน คณะกรรมการนี้ ได้มาจากการเลือกตั้งของที่ประชุมใหญ่ ของสมาพันธ์จากสมาชิกแกนหลักและให้ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุม เลือกตั้งกันเองเป็นประธานสมาพันธ์ 1 คน และรองประธานสมาพันธ์ 1 คน สำหรับตำแหน่งกรรมการในตำแหน่งอื่น ให้ประธานเป็นผู้แต่งตั้งผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่เข้าดำรงตำแหน่งต่างๆ ของสมาพันธ์ ตามที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ โดยสังเขปดังต่อไปนี้
15.2 รองประธานสมาพันธ์ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยประธานสมาพันธ์ในการบริหารกิจการสมาพันธ์ ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ประธานสมาพันธ์มอบหมายและทำหน้าที่แทนประธานสมาพันธ์เมื่อประธานสมาพันธ์ไม่อยู่ หรือไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้
15.3 เลขาธิการสมาพันธ์ ทำหน้าที่ปฏิบัติกิจการของสมาพันธ์ และปฏิบัติตามคำสั่งของประธานสมาพันธ์ประสานงานกับสมาชิกและแนวร่วมในการดำเนินการ เพื่อแผนยุทธศาสตร์ของสมาพันธ์ตลอดจนทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่างๆ ของสมาพันธ์
15.4 ประธานวิชาการ ทำหน้าที่เกี่ยวกับวิชาการการรวบรวมการวิจัย การเผยแพร่ที่คณะกรรมการบริหารสมาพันธ์ให้ความเห็นชอบ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสมาพันธ์
15.5 ประธานฝ่ายสารสนเทศ ทำหน้าที่รวบรวมจัดทำบันทึกข้อมูลวิชาการการรณรงค์สังคมไทยปลอดบุหรี่ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยร่วมกับฝ่ายวิชาการและเลขาธิการสมาพันธ์ เพื่อจัดทำสื่อสำหรับเผยแพร่ ฯลฯ ตามวัตถุประสงค์ของสมาพันธ์
15.6 เหรัญญิก มีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดของสมาพันธ์ เป็นผู้จัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย บัญชีงบดุลของสมาพันธ์ และเก็บเอกสารหลักฐานทางการเงินต่างๆ ของสมาพันธ์ ไว้เพื่อตรวจสอบ
15.7 ปฏิคม มีหน้าที่ในการให้การต้อนรับแขกของสมาพันธ์ เป็นหัวหน้าในการจัด เตรียมสถานที่ของสมาพันธ์และจดเตรียมสถานที่ประชุมต่างๆ ของสมาพันธ์
15.8 นายทะเบียน มีหน้าที่เกี่ยวกับทะเบียนสมาชิกทั้งหมดของสมาพันธ์
15.9 ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่เผยแพร่กิจการและการประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อการรณรงค์สังคมไทยปลอดบุหรี่ ของสมาพันธ์ให้สมาชิกและบุคคลทั่วไปให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย
15.10 ผู้อำนวยการสำนักงานสมาพันธ์ มีหน้าที่ในการ กำกับดูแลสำนักงาน การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำสมาพันธ์ทั้งหมด
15.11 กรรมการกลาง ทำหน้าที่ช่วยเหลือคณะกรรมการสมาพันธ์ ในด้านต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย คณะกรรมการชุดแรก ให้ผู้เริ่มจัดตั้งสมาพันธ์เป็นผู้เลือกตั้ง ประกอบด้วยประธานสมาพันธ์ และกรรมการอื่นๆ ตามจำนวนที่เห็นสมควรตามข้อบังคับของสมาพันธ์
ข้อ 17 กรรมการอาจจะพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งมิใช่เป็นการออกตามวาระด้วยเหตุผลต่อไปนี้คือ
17.2 ลาออก
17.3 ขาดจากสมาชิกภาพ
17.4 ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้ออกจากตำแหน่ง
ข้อ 20 อำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการอำนวยการ
20.2 มีอำนาจแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าหน้าที่ของสมาพันธ์
20.3 มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการได้ แต่กรรมการที่ปรึกษาหรืออนุกรรมการจะสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกินวาระของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง
20.4 มีอำนาจเรียกประชุมใหญ่ประจำปี และประชุมใหญ่วิสามัญ
20.5 มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการในตำแหน่งอื่นๆ ที่ยังไม่ได้กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้
20.6 มีอำนาจบริหารกิจการของสมาพันธ์ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนมีอำนาจอื่นๆ ตามที่ข้อบังคับได้กำหนดไว้
20.7 มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจการทั้งหมด รวมทั้งการเงิน และทรัพย์สินทั้งหมดของสมาพันธ์
20.8 มีหน้าที่อื่นๆตามที่ข้อบังคับกำหนดไว้
หมวดที่ 5 การประชุมใหญ่
ข้อ 21 การประชุมใหญ่ของสมาพันธ์ มี 2 ชนิดคือ
21.2 การประชุมใหญ่วิสามัญ
ข้อ 23 การประชุมใหญ่วิสามัญอาจกระทำได้ดังต่อไปนี้
23.2 สมาชิกแกนหลัก ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกแกนหลักทั้งหมด หรือสมาชิกไม่น้อยกว่า 50 คนทำหนังสือถึงเลขาธิการขอร้องให้จัดมีขึ้น
ข้อ 26 การประชุมใหญ่ประจำปี จะต้องมีวาระการประชุมอย่างน้อยดังต่อไปนี้
26.2 แถลงบัญชี รายรับรายจ่าย และบัญชีงบดุลของปีที่ผ่านมาให้สมาชิกรับทราบ
26.3 เลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เมื่อครบกำหนดวาระ
26.4 เรื่องอื่นๆ ถ้ามี